วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ทรัพยากรธรรมชาติ

ทรัพยากรธรรมชาติ
สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามกระบวนการธรรมชาติและมนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตได้ ที่สำคัญได้แก่
1. ดิน 2. น้ำ 3. แร่ธาตุ 4. ป่าไม้
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรดินในประเทศไทยมี2อย่าง คือ ปัญหาตามธรรมชาติ และปัญหาที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์
ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติได้แก่
1.ปัญหาการชะล้างของแร่ธาตุในดิน
2.ปัญหาการสึกกร่อนพังทลายของดิน
ปัญหาที่เกิดจาการกระทำของมนุษย์ได้แก่
1.ปัญหาการปลูกพืชชนิดเดียวกันซ้ำซาก
2.ปัญหาการปลูกพืชโดยไม่บำรุงดิน
3.ปัญหาการทำลายป่าเพื่อการเกษตร
4.ปัญหาการเผาป่าหรือไร่นา
การอนุรักษ์ทรัพยากรดิน หมายถึง การใช้ดินอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการสึกกร่อน พังทลายและสามารถใช้ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและนานที่สุด ได้แก่
1. การปลุกพืชหมุนเวียน ในเขตที่มีการชลประทานดี
2. การปลูกพืชเป็นขั้นบันได บริเวณเชิงเขาที่มีพื้นที่ลาดชันน้อย
3. การปลูกป่าบริเวณลาดชันมากไม่เหมาะต่อการกสิกรรม
ข้อควรจำ
ภาคที่มีการชลประทานดี คือ ที่ราบลุ่มแม่น้ำในภาคเหนือและภาคกลาง
ทรัพยากรธรรมชาติแร่ธาตุ
ทรัพยากรแร่ หมายถึง แร่ธาตุต่างๆที่มีอยู่ในหินเปลือกโลก ทั้งบนบกและใต้ทะเล ซึ่งมนุษย์สามารถขุดนำมาใช้ประโยชน์
แหล่งกำเนิดแร่มาจาก
1. หินอัคนีเย็นตัวลง มักพบบริเวณภูเขาที่มีหินอัคนีแทรกอยู่
2. การผุพังของหินอัคนี
3. หินแปร(เกิดจากหินชั้นหรือหินอัคนีเปลี่ยนสภาพไป เพราะถูกความร้อนหรือความกดดันสูง)
4. หินชั้น เกิดจากการทับถมของสารแร่บางอย่าง หรือการตกตะกอน
ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรแร่ของประเทศไทยอยู่ในระดับปานกลาง บริเวณทิวเขาภาคเหนือ ภาคตะวันตก ภาคใต้ ซึ่งมีหินแกรนิต แทรกตัวอยู่ในชั้นหิน จะมีแร่ดีบุกเป็นจำนวน
ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้
ป่าไม้ในประเทศไทยแบ่งออกกเป็น2ประเภท คือ
1. ป่าไม้ไม่ผลัดใบ 2.ป่าไม้ผลัดใบ
คำว่า "ป่าไม้" หมายความว่าอะไร
คำว่า "ป่าไม้"นี้มีความหมายของคำว่า "ป่าไม้" นี้มีความหมายที่แตกต่างกันไปตามยุคตามสมัย
ตอนปลายศตวรรษที่ 13 ในยุโรป "ป่าไม้ หมายถึง พื้นที่ที่พระมหากษัตริย์ได้สงวนไว้เพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับล่าสัตว์ของ ส่วนพระองค์ ส่วนสิทธิในการตัดไม้และการก่นสร้างแผ้วถางป่าเพื่อการเพาะปลูกหรือเลี้ยงสัตว์ยังเป็นของประชาชนทั่ว ๆ ไปอยู่
ปัจจุบันองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติได้ให้คำนิยามคำว่า "ป่าไม้" หมายถึง "บรรดาพื้นที่ที่มีพฤกษชาตินานาชนิดปกคลุมอยู่โดยมีไม้ต้นขนาดต่าง ๆ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ โดยไม่คำนึงว่าจะมีการทำ ไม้ในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ก็ตาม สามารถผลิตไม้หรือมีอิทธิพลต่อลมฟ้าอากาศ หรือต่อระบบของน้ำในท้องถิ่น" นอกจากนี้พื้นที่ที่ได้ถูกตัดฟัน หรือแผ้วถางหรือโค่นเผาไม้ลง และมีเป้าหมายที่จะปลูกป่าขึ้นในอนาคต ก็นับ รวมเป็นพื้นที่ป่าไม้ด้วย แต่ทั้งนี้มิได้นับเอาป่าละเมาะ หรือหมู่ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่นอกป่า หรือต้นไม้สองข้างทางคมนาคม หรือที่ยืนต้นอยู่ตามหัวไร่ปลายนา หรือที่ขึ้นอยู่ในสวนสาธารณะ ให้เป็นป่าไม้ด้วย
ป่าไม้ผลัดใบได้แก่
1. ป่าเบญจพรรณ พบมากในภาคเหนือและภาคกลาง ไม้ที่สำคัญได้แก่ สัก ประดู่ แดง ตะแบก เสลา มะค่า โมง มะเกลือ เป็นป่าเศรษฐกิจที่มีความสำคัญมาก
2. ป่าแดงหรือป่าโคก หรือเต็งรัง ปรากฎในดินที่ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์พบอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ป่าไม้ไม่ผลัดใบ ได้แก่
1. ป่าดงดิบ พบในบริเวณที่ฝนตกชุก ไม่มีฤดูแล้ง ให้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง ได้แก่ ยาง ตะเคียน กะบาก และพันธุ์ไม้เล็กๆเช่น ไผ่เถาวัลย์ ระกำ เป้นต้น ป่าดงดิบมีมากในภาคใต้และภาคตะวันออก
2. ป่าดิบเขา มีลักษระคล้ายป่าดงดิบ แต่มีต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่น้อยมาก ได้แก่ไม้สกุลตอ และมีพืชประเภทมอส เฟิน กล้วยไม้ เกาะติดอยู่ มีประโยชน์ในด้านรักษาต้นน้ำลำธาร ป่าดิบเขา ปรากฏตามทิวเขาที่มีความสูงตั้งแต่1000เมตรขึ้นไป
3. ป่าสนเขา พบบริเวณที่มีพิ้นที่ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ700เมตรขึ้นไป เช่นเชียงใหม่และภูกระดึง
4. ป่าชายเลน หรือป่าเลนน้ำเค็ม เช่น โกงกาง แสมทะเล ปรง พบได้บริเวณต้นอ่าวไทย และชายฝั่งของภาคตะวันออกและตะวันตกของอ่าวไทยตั้งแต่เพชรบุรีไปถึงนราธิวาส กับทะเลอันดามันตั้งแต่ระนองถึงสตูล ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์มาก
ความสำคัญของป่าไม้
1. สำคัญต่อระบบนิเวศวิทยา ป่าไม้ช่วยป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ เป็นต้นน้ำลำธาร เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า เป็นต้น
2. สำคัญด้านเศรษฐกิจ ป่าไม้ให้ผลผลิตที่นำมาใช้ประโยชน์ต่อมนุษย์ได้อย่างมากมาย
3. สำคัญด้านนันทนาการ ป่าไม้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของมนุษย์ เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติวิทยาภาคที่มีป่าไม้หนาแน่นมากเรียงตามลำดับ คือ
1. ภาคเหนือ
2. ภาคตะวันตก
3. ภาคตะวันออก
4. ภาคใต้
5. ภาคกลาง
6. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วิธีการอนุรักษ์ป่าไม้ที่สำคัญคือ
1. การคุ้มครองป่าไม้
2. การควบคุมการตัดไม้
3. การปลูกป่า
4. การป้องกันไฟป่าและแมลงทำลายต้นไม้
5. การใช้ไม้อย่างประหยัด ใช้วัสดุอื่นแทนไม้ หรือการนำเศษไม้กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่
6. การปรามปราบผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า
7. การรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนเห็นความสำคัญของป่าไม้
8. มีนโยบายเปิดป่าสัมปทานการทำป่าไม้เพื่อช่วยอนุรักษ์ป่า
วิธีการแก้ไขปัญหาป่าไม้ด้วยการปลูกป่าคืออะไร
นอกจากนี้กรมป่าไม้ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้บริษัททำไม้จังหวัด ฯลฯ ได้ปลูกสวนป่าตั้งแต่ต้นจนถึงปี 2526 ได้ประมาณ 3 ล้านไร่ โครงการป่าชุมชนที่ส่งเสริมให้ราษฎรและชาวไร่ปลูกป่าในที่รกร้างว่าเปล่าหรือที่หัว ไร่ปลายนา เมื่อดำเนินการเต็มรูปแล้วปัญหาเรื่องการขาดแคลนไม้ ไม้ฟืนและไม้ใช้สอยก็จะบรรเทาเบาบางลงได้ อย่างไรก็ดี การที่จะป้องกันรักษาป่าไม้อันเป็นทรัพยากรธรรมชาติล้ำค่าของเรานั้น จำเป็นจะต้องอาศัยความร่วมมือของหน่วยราชการและประชาชนทุกฝ่ายมิฉะนั้น ป่าไม้จะต้องหมดไปจากประเทศไทยอย่างไม่มีปัญหา การให้การศึกษาอบรมแก่เยาวชนทุกระดับชั้น เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณประโยชน์ของทรัพยากรป่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า ทุกประเภท โดยกำหนดเป็นหลักสูตรการศึกษานับตั้งแต่ชั้นประถมขึ้นไปจน ถึงระดับมหาวิทยาลัย และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้นักเรียนนักศึกษาได้มีโอกาสไปเห็นหรือสัมผัสของจริงหรือฝึกงานในภูมิประเทศจึงจะเกิดความประทับใจขึ้นอย่างจริงจัง สื่อมวลชนอันได้แก่หนังสือพิมพ์
วิทยุกระจาย เสียง และวิทยุ โทรทัศน์นับว่ามีบทบาทสำคัญมากที่จะช่วยทำให้ประชาชนได้ทราบและตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและให้ความร่วมมือกับรัฐในการอนุรักษ์ยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากมาตรการที่ได้ดำเนินการอยู่แล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติที่กระทรวงต่าง ๆ ถือปฏิบัติอยู่ให้สอดคล้องไม่ขัดแย้งซึ่งกันและกัน ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายจะสงวนและรักษาป่าไม้ไว้ให้ได้ร้อยละ 40 ของเนื้อที่ประเทศ ส่วนกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายจะเปิดที่ป่าไม้เพื่อให้ราษฎรทำกิน
กระทรวงคมนาคม ตัดเส้นทางผ่านป่าไม้ที่สมบูรณ์ โดยมิได้วางแผนการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำให้ป่าไม้สองข้างทาง คมนาคมถูกบุกรุกทำลายอย่างรุนแรงเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและเพาะปลูก กระทรวงอุตสาหกรรม อนุญาตให้ตั้งโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบจากพืชผลทางการเกษตร เช่น โรงงานแป้งมันสำปะหลัง โรงงานน้ำตาล โดยมิ ได้ประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ป่าที่สมบูรณ์จึงถูกบุกรุกทำลายเป็นไร่มันสำปะหลังและไร่อ้อยเป็นจำนวนมาก
ปัญหาของทรัพยากรน้ำ
ปัญหาสำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้น คือ
1. ปัญหาการมีน้ำน้อยเกินไป เกิดการขาดแคลนอันเป็นผลเนื่องจากการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ปริมาณน้ำฝนน้อยลง เกิดความแห้งแล้งเสียหายต่อพืชเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์
2. ปัญหาการมีน้ำมากเกินไป เป็นผลมาจากการตัดไม้มากเกินไป ทำให้เกิดน้ำท่วมไหลบ่าในฤดูฝน สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน
3. ปัญหาน้ำเสีย เป็นปัญหาใหม่ในปัจจุบัน สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำเสีย ได้แก่ น้ำทิ้งจากบ้านเรือน ขยะมูลฝอยและสิ่งปฎิกูลที่ถูกทิ้งสู่แม่น้ำลำคลอง น้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
น้ำฝนพัดพาเอาสารพิษที่ตกค้างจากแหล่งเกษตรกรรมลงสู่แม่น้ำลำคลอง น้ำเสียที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลเสียหายทั้งต่อสุขภาพอนามัย เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ และมนุษย์ ส่งกลิ่นเหม็น รบกวน ทำให้ไม่สามารถนำแหล่งน้ำนั้นมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งการอุปโภค บริโภค เกษตรกรรม
และอุตสาหกรรม
เครื่องเติมออกซิเจนให้แก่น้ำ ป้องกันมิให้น้ำเน่าเสีย
การอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำที่สำคัญๆมีดังต่อไปนี้
1. การพัฒนาแหล่งน้ำ ได้แก่ การขุดลอกหนองคลองบึง และแม่น้ำที่ตื้นเขิน เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้น ตลอดจนการสร้างเขื่อนและอ่างกักเก็บน้ำ
2. การใช้น้ำอย่างประหยัด ไม่ปล่อยให้น้ำสูญเสียไปโดยปล่าวประโยชน์ และสามารถนำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาหมุนเวียนใช้ได้ใหม่อีก
3. การควบคุมรักษาต้นน้ำลำธาร ไม่มีการอนุญาติให้มีการตัดต้นไม้ทำลายป่าอย่างเด็ดขาด
4. ควบคุมมิให้เกิดมลพิษแก่แหล่งน้ำ มีการดูแลควบคุมมิให้มีการปล่อยสิ่งสกปรกลงแหล่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น